Monday, December 26, 2016

น้ำพุร้อนสมอทอง


อัญชัญ ชาวป่า...เรื่องและภาพ 
ผลงานรางวัลชนะเลิศ YOUTH BLOGGERS จากคอลัมน์เยาวชนตากล้องท่องเที่ยวไทย 
ตีพิมพ์ครั้งแรกในอนุสาร อ.ส.ท. ฉบับเดือนพฤศจิกายน ๒๕๕๙
  

 'น้ำพุร้อนสมอทอง' เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ซึ่งทุกๆปี ครอบครัวของฉันจะมาเที่ยวที่นี่ เพื่อมาแช่น้ำอุ่นคลายหนาวในช่วงปีใหม่ การมาแช่น้ำอุ่นจึงเป็นเหมือนสปาธรรมชาติเล็ก ๆ ที่สามารถช่วยบรรเทารักษาโรคต่าง ๆ ได้ เพราะน้ำพุร้อนสมอทองเป็นน้ำพุร้อนธรรมชาติ ที่ผุดขึ้นมาจากผิวดิน มีความร้อนประมาณ ๖๐-๖๕ องศาเซลเซียส และยังเป็นน้ำพุร้อนที่มีผืนน้ำล้อมรอบแห่งเดียวในประเทศไทย โดยตั้งอยู่ที่ตำบลทองหลาง อำเภอห้วยคต จังหวัดอุทัยธานี อยู่ในโครงการอ่างเก็บน้ำห้วยขุนแก้ว และยังถือเป็นสปาธรรมชาติแบบไทยๆแห่งหนึ่งที่สามารถแช่น้ำอุ่น ๆ และมองเห็นวิวสวยๆ จากทิวเขาโดยรอบ รวมถึงธรรมชาติที่สวยงามจากอ่างเก็บน้ำห้วยขุนแก้วอีกด้วย


เอกลักษณ์ที่เห็นได้ชัดเมื่อมาถึงที่นี่คือพระพุทธรูปองค์โต ซึ่งเป็นพระพุทธรูปพุทโธสีทอง ในยามที่แสงแดดส่องมาในยามเช้าจะเป็นสีเหลืองทองอร่ามอย่างงดงาม และมีความสูงถึง ๒๐ เมตร พ่อกับแม่เคยเล่าให้ฉันฟังว่าแต่เดิมพระพุทธรูปได้ประดิษฐานอยู่บนเนินเขาสูง ซึ่งต้องใช้เวลาเดินขึ้นบันไดไปกว่าจะถึงองค์พระพุทธรูป แต่ปัจจุบันได้ปรับปรุงพื้นที่ใหม่ให้เหมาะสมกับทัศนียภาพของพื้นที่โดยรอบ พระพุทธรูปพุทโธจึงได้ประดิษฐานอยู่ตรงกลางพื้นที่อย่างโดดเด่น และยังเป็นที่เลื่อมใสและน่านับถือของชาวห้วยคตมาอย่างยาวนานอีกด้วย

ทุก ๆ ปีที่ฉันได้มาที่นี่ ในช่วงฤดูหนาว สิ่งพลาดไม่ได้คือการได้มานั่งแช่น้ำอุ่นกับครอบครัว ซึ่งสร้างความสนุกสนาน และความอบอุ่นในครอบครัวได้ไม่น้อย หรือจะเป็นการแช่น้ำอุ่นส่วนตัวในห้องก็ตาม สร้างความผ่อนคลายได้ไม่แพ้กัน นอกจากนี้แล้ว อีกหนึ่งกิจกรรมที่ฉันชอบและพลาดไม่ได้เมื่อมาถึงที่น้ำพุร้อนสมอทอง คือการปั่นจักรยานเล่นกับน้องรอบ ๆ ลานน้ำพุ เพราะนอกจากจะสนุกแล้วยังได้ชมวิวที่สวยงามไปในตัวอีกด้วย บางครั้งญาติของฉันที่มาจากกรุงเทพจะไปตกปลาบริเวณจุดตกปลา ฉันกับน้องก็จะตามไปดู และเมื่อพระอาทิตย์กำลังจะลาลับขอบฟ้า เราจะปั่นจักรยานกลับมาที่จุดกางเต็นท์ ซึ่งเป็นลานกว้างริมน้ำที่ปูด้วยหญ้าสีเขียว และมีลมพัดเย็นสบาย


ในปีก่อนๆฉันเคยเอาการบ้านมาทำที่นี่ บางครั้งก็เตรียมกระดาษมานั่งวาดรูปด้วย แต่หลังๆมานี้ ฉันคิดว่าการมาเที่ยวคือการพักผ่อน ฉันจึงปล่อยวางและจัดเวลาชีวิตใหม่สำหรับการทำสิ่งต่างๆ ให้เหมาะสม เมื่อพระอาทิตย์กำลังจะตกดินในยามเย็น ฉันกับน้องจะมาช่วยกันกางเต็นท์ทุกเต็นท์ที่เตรียมมา และหลังจากนั้นเราจะช่วยพ่อกับแม่ทำอาหารเย็น

แต่สิ่งหนึ่งที่ฉันยังจำได้ดีเสมอ ในวันปีใหม่เมื่อสองปีที่ผ่านมาคือ ในวันนั้น ฉันตื่นแต่เช้าตรู่และโผล่หน้าออกมาจากเต็นท์ แต่ภาพตรงหน้าที่ฉันเห็นกลับทำให้ฉันรู้สึกเหมือนกำลังหลับอยู่และฝันไป ฉันเห็นท้องฟ้าที่สวยงามราวกับภาพวาด ที่สะท้อนลงมาบนผืนน้ำ และมีแสงสว่างจากดวงอาทิตย์เล็กๆที่กำลังโผล่ขึ้นมาทักทายฉันในยามเช้า ลมพัดเบาๆที่ลอยมาปะทะใบหน้า ทำให้ฉันรู้สึกสดชื่นและเป็นตัวของตัวเองทุกครั้ง ที่แห่งนี้ ไม่ได้แค่เพียงทำให้ฉันรู้สึกดีขึ้น แต่ยังทำให้ครอบครัวของเราได้ใช้เวลาอยู่ร่วมกัน ถึงจะเป็นแค่ช่วงระยะเวลาสั้นๆ แต่มันก็ทำให้เราได้ลืมเรื่องร้ายๆไปได้



ฉันจึงคิดว่าที่แห่งนี้เหมาะสำหรับครอบครัว ที่ต้องการมาพักผ่อน เพราะนอกจากจะได้แช่น้ำอุ่นด้วยบรรยากาศที่ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย แวดล้อมไปด้วยภูเขาและผืนน้ำที่มองได้ไกลสุดสายตาแล้ว ยังได้ทำกิจกรรมอื่นๆ กับครอบครัวได้อย่างมีความสุข 

น้ำพุร้อนสมอทองจึงเป็นสถานที่ ที่สามารถมาเที่ยวได้ตลอดทั้งปี โดยเฉพาะในช่วงปีใหม่ ที่เหมาะสำหรับการมาแช่น้ำอุ่นในสระริมน้ำ และชมวิวหมอกรอบ ๆ หรือจะเป็นการกางเต็นท์พักแรมเพื่อชมพระอาทิตย์ขึ้นในยามเช้าของวันใหม่ก็ดีไม่น้อย

 นางสาวอัญชัน ชาวป่า มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง

Thursday, December 1, 2016

รักน่านไปนาน ๆ นะเออ


เรื่องและภาพโดย นางสาวกันตา ตันกุระ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๖ โรงเรียนปัว จังหวัดน่าน
สารคดีจากโครงการอบรมเยาวชน YOUTH BLOGGERS รุ่นที่ ๘

          สวัสดีค่ะ ต้องบอกเลยว่านี่เป็นการตั้งอัลบั้มเชิงท่องเที่ยวครั้งแรกของเรา 

เริ่มจากการที่เมื่อวานนี้ได้มีโอกาสเข้าร่วมการอบรม Youth Bloggers แล้วโครงการก็มีกิจกรรมให้ได้ร่วมสนุก นั่นคือการนำเสนอสถานที่ท่องเที่ยวบริเวณข่วงเมืองน่าน ซึ่งถือเป็นโจทย์ที่ท้าทายมากกกกก 5555

ที่ท้าทายก็เพราะว่าบริเวณข่วงมีสถานที่ท่องเที่ยวเยอะ และแต่ละที่มีจุดเด่นที่ต่างกัน ดังนั้นทำให้เราตัดสินใจยากนิดนึง อารมณ์ประมาณรักพี่เสียดายน้อง สุดท้ายเราจึงเลือก "วัดภูมินทร์" สถานที่ซึ่งหากใครมาน่านแล้วไม่ได้แวะ ถือว่ายังมาไม่ถึง

            ในตอนที่เราไปเที่ยวนั่น เป็นตอนบ่าย แดดนี่เปรี้ยง แต่ก็มีลมโชยมาเป็นระยะ สามารถเดินทอดน่อง ชิล ๆ ได้สบายเลย โดยปกติแล้วตามประสาเด็กน่านก็จะคิดว่าเป็นแค่วัดแหละ ไม่เห็นจะมีอะไร

แต่ขอบอกเลยว่าคิดผิด นั่นก็เพราะว่านอกจากวัดภูมินทร์จะเป็นวัด เป็นสถานที่ท่องเที่ยว มีสถาปัตยกรรมโดดเด่นสวยงาม (ถึงขนาดรัฐบาลไทยสมัยช่วงสงครามโลกครั้งที่ ๒ เคยนำรูปไปตีพิมพ์บนธนบัตรใบละ ๑ บาทมาแล้ว)  มีภาพกระซิบรักบันลือโลก (ปู่ม่าน ย่าม่าน) มีพระประธานจตุรทิศ มี มี มี...   โอ๊ย ย ย มีเยอะจนบอกไม่หมดแล้วพี่บัวลอย

บอกได้คำเดียวว่าที่เราพูดมาเป็นอะไรที่พื้นมาก เด็ก ป . ๓ ยังรู้เลย

ฉะนั้น...วันนี้จึงอยากจะพาทุกคนไปทัวร์วัดภูมินทร์ในแง่มุมใหม่ๆของเราบ้าง หลายๆคนอาจจะไม่ค่อยแปลกใจ แต่เราแปลกใจ ฮ่า ๆ แบบโอ้โฮ สวยได้อีก งั้นมาดูกันเลย...Let's go


 โดยปกติแล้วทุกคนคงจะเห็นรูปด้านหน้าตรง ๆ ของวัดภูมินทร์บ่อยแล้ว เราเลยมีความคิดว่าเอามุมใหม่บ้างดีกว่า จึงได้รูปนี้มา แสงกำลังดีเลย ฮี่ ๆ อย่างที่ทราบมาแล้วว่าวัดภูมินทร์เป็นวิหารจัตุรมุข อาคารนี้เป็นทั้งพระอุโบสถ พระวิหาร และพระเจดีย์ประธาน ตั้งอยู่บนหลังพญานาค ๒ ตัว มีประตูทั้งสี่ทิศ ซึ่งถือว่าเป็นUnseen เหนือ Unseen เพราะมีแห่งเดียวในประเทศไทย สถาปัตยกรรมยังมีกลิ่นอายของความเป็นล้านนา แบบวิถีคนน่าน มองเมื่อไหร่ก็รู้สึกอบอุ่นหัวใจ 


ต่อมาขอนำเสนอภายในวัดบ้าง ขอบอกว่าพระประธานสวยจริง ๆ เพราะเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยองค์ใหญ่ ๔ องค์ หันหน้าออกไปทางประตูทั้งสี่ทิศ เมื่อมองไปยังพระพักตร์ จะเห็นเหมือนกับว่าท่านกำลังยิ้มอวยพรให้เรา ต้องขอนำเสนอหลาย ๆ มุม เพราะอยากให้ทุกคนได้เห็นความงดงามของพระพุทธรูป ถ้ามีโอกาสมาเยี่ยมชม จะพบว่าเมื่อเดินรอบ ๆ วัด แล้วดูมองเข้ามาภายในวิหาร จะเจอพระพุทธรูปเสมอ 

ถัดมาเป็นภาพส่วนหนึ่งของจิตรกรรมฝาผนังของวัดภูมินทร์ สาเหตุที่เราไม่เลือกภาพกระซิบรักนั่นก็เพราะว่าสามารถหาดูได้ง่าย ในขณะที่จิตรกรรมในวัดส่วนอื่น ๆ ที่มีความงามและคุณค่าไม่ต่างกันนั้น ยังไม่ได้ถูกเผยแพร่สู่สายตาของคนอื่น ๆ มากนัก อยากให้ทุกคนมาชมภาพที่วัดเลย เพราะในทุก ๆ ด้านของผนังวิหารได้บอกเล่าเรื่องราว ขนบธรรมเนียม วัฒนธรรม ประเพณี ประวัติของจังหวัดน่านในอดีตไว้ได้อย่างงดงาม ผ่านภาพจิตรกรรมบนฝาผนัง 


เดินดูรอบวัดแล้วพบว่า ข้าง ๆ วิหารมีสถาปัตยกรรมที่เดินผ่านแล้วอาจจะไม่ค่อยเตะตาสักเท่าไหร่นัก แต่ถ้าใครมีโอกาสได้ไป ลองแวะเข้าไปดูสถูปเจดีย์พระมาลัยโปรดโลก ภายในเป็นรูปปูนปั้นจำลองนรกสำหรับคนที่ทำบาปว่าจะได้รับผลกรรมเช่นไร เพื่อเป็นการย้ำเตือนใจให้เรารู้สึกเกรงกลัว ละอายต่อการทำสิ่งที่ไม่ดี 

เนื่องจากความสวยงามไม่สามารถเล่าผ่านภาพได้แบบจุใจ จึงอยากขอเรียนเชิญทุกท่านมาเที่ยว มาเยี่ยมชมเมืองน่าน เพราะความงดงามของน่านนครยังไม่หมดเพียงเท่านี้

มาแล้วคุณจะหลงรักเมืองน่าน เมืองที่ห้อมล้อมไปด้วยทรัพยากร เมืองแห่งอารยธรรม

เมืองที่คุณจะรู้สึกว่าเป็นคนในครอบครัวมากกว่านักท่องเที่ยว
 
 YOUTH BLOGGERS รุ่นที่ ๘ อำเภอเมืองฯ จังหวัดน่าน