เทพอักษร ย้อนเพชร...เรื่อง Youth Bloggers...ภาพ
ผลงานสารคดีสั้นรางวัลเนี้อหาดีเด่นในโครงการอบรมเยาวชน Youth Bloggers รุ่นที่ ๑๗ โรงเรียนบ้านไร่วิทยา จังหวัดอุทัยธานี
เราเดินทางออกจากโรงเรียนเมื่อเวลาตอนบ่ายโมง
เราเดินทางออกจากโรงเรียนเมื่อเวลาตอนบ่ายโมง
ใช้เวลาในการเดินทางมาถึงต้นไม้ยักษ์ประมาณ ๒๐ นาที กว่าจะมาถึงนั้นดูเหมือนมันจะไม่ง่ายเลยเสียทีเดียว เพราะเส้นทางที่คดเคี้ยวไปมา ฉันลืมบอกไป ว่าฉันมารถบัสของโรงเรียน นึกดูนะ รถบัสคงบังคับยากน่าดู เราชื่นชมคนขับมากที่สามารถขับในทางที่คดเคี้ยวไปมานี้ได้
โครงการอบรมเยาวชน Youth Bloggers ให้เวลาในการถ่ายรูปที่ต้นไม้ยักษ์ประมาณ ๑ ชั่วโมง เราเดินลงรถมาสิ่งที่เราเห็นครั้งแรกคือของที่วางขายคล้ายประหนึ่งตลาด แต่ของขายไม่มากเท่าไหร่
เราเดินเข้าไปตามทางที่ระหว่างสองข้างทางจะเป็นร้านขายของสำหรับคนท้องถิ่น
ด้านหลังของร้านขายของเป็นลำธารที่มีน้ำไหลผ่านตลอดและอีกฝั่งจะเป็นป่า
เราเดินเข้าไปไม่นานนักก็พบต้นไม้ยักษ์ ไม่ใกล้ไม่ไกลจากต้นไม้ยักษ์ยังมีศาลเจ้าที่อยู่ด้วย ใครที่ไปเยี่ยมชมก็อย่าลืมไปไหว้ท่านกันด้วยนะ ต้นไม้ยักษ์เป็นต้นไม้ที่สูงมาก
มีรากและโคนที่ใหญ่มากเลยละ เราเองนี่ก็เพิ่งเคยมาครั้งแรก ขนาดอยู่ที่อำเภอบ้านไร่นะ 555
พอเดินเข้าไปอีกก็จะพบกับป่าหมากจำนวนมากอยู่รายรอบล้อมต้นไม้ยักษ์ มีต้นไม้อีกหลายชนิดเลยที่เกาะอยู่ตามต้นหมาก
ตามใต้ต้นรากโคนที่ใหญ่นั้นก็จะมีสัตว์เล็กสัตว์น้อยอาศัยอยู่เต็มไปหมด
ถือเป็นป่าหมากที่อุดมสมบูรณ์มากเลยทีเดียว
เราตามเก็บภาพตามประสาของเราไป
พอถึงเวลาใกล้จะขึ้นรถ พี่ ๆ วิทยากรก็เรียกน้อง ๆ ไปขึ้นรถ ระหว่างทางเดินกลับ
เราก็สังเกตเห็นกล้วยวางอยู่บนแคร่ มันดูสวยดีเลยเข้าไปถ่ายภาพ
แต่สิ่งที่พบนั้นเป็นกล้วยที่มีแมลง มด และผึ้งเจาะกินอยู่ เราเลยถ่ายภาพเก็บไว้
ต้องความใจเย็นและระมัดระวังมาก ๆ เลย ก็ผึ้งเล่นบินตลอดเลยนี่นา กว่าจะนิ่งได้ก็ตอนหยุดกินกล้วย หรือดูดน้ำหวานจากกล้วยก็ไม่รู้สิ^^
หลังจากนั่นเราก็ไปขึ้นรถไปถ่ายภาพต่อที่วัดถ้ำเขาวง แต่ฟ้าฝนอาจไม่เป็นใจ
อยู่ ๆ ก็ตกลงมา ตอนแรกเราคิดว่าคงต้องรออยู่รถอีกนาน
แต่ไม่เลย พอถึงถ้ำเขาวงสักพักนิด ๆ ฝนก็หยุดตก ทำให้พื้นพอชุ่มชื้นขึ้นมา
ท้องฟ้าวันนี้มืดครึ้มตลอดทั้งวันเลย พอฝนหยุดตกเราก็ลงจากรถ
ลงมาถ่ายภาพด้วยเวลาที่มีจำกัด และเราที่ลีลาเอามาก ๆ
จึงไม่ค่อยได้ถ่ายอะไรมาเลย เราเดินไปไม่ทั่วด้วยซ้ำ 😢
แต่อย่างว่าล่ะ ถึงแม้จะเดินไปไม่ทั่ว แต่แค่เดินไปทางเข้าก็พบกับความสวยงาม เราเดินไปบนพื้นอิฐสีแดงตัดกับสีเขียวสองข้างทางที่มีหญ้าและไม้ดอกไม้ประดับคล้าย ๆ สวนฝนที่เพิ่งตกทำให้ใบไม้มีละอองน้ำเกาะอยู่ ให้ความรู้สึกชุ่มชื่น ผ่อนคลาย และสบายตามาก
พอเราเดินไปจนสุดก็จะพบกับความสวยที่มองจากมุมไกล เห็นภูเขาลูกใหญ่เป็นพื้นหลัง และมีวัดซึ่งมีลักษณะเป็นสถาปัตยกรรมบ้านเรือนไทยคล้ายศาลพระภูมิ
มีบึงน้ำอยู่ด้านล่างสุด ตัดด้วยสะพานไม้สำหรับให้คนเดินไปให้อาหารปลา
รอบ ๆ มีไม้ดอกไม้ประดับรอบล้อมตลอดทางเดินทุกทาง
เสียดายที่เราไม่ได้เดินให้ทั่วและขึ้นไปดูภายในวัด ด้วยความลีลาของเราเอง 55
แต่แค่ได้มองและถ่ายภาพก็รู้สึกผ่อนคลายและสบายใจ
ถึงแม้ท้องฟ้าจะมืดครึ้มแต่มันก็เป็นวันดี ๆ
ของเราอีกวันหนึ่ง ที่ได้ลองมาเปิดประสบการณ์และโลกกว้างขึ้นอีก
“ถึงรูปจะไม่สวยสำหรับใคร แต่มันมีค่าสำหรับใครบางคน” ☺️
หากใครมาเยี่ยมชมก็อย่าถ่ายภาพเป็นที่ระลึกกันไว้ด้วยล่ะ ☺️ และนี่คือ story ของการเดินทางครั้งที่ ๑ ของเราเอง
ปล.ภาพที่เราถ่ายเป็นมุมเล็ก ๆ ของสัตว์ที่น่ารัก และมุมมองของฟ้าหลังฝน ✨