ธนดล จรรยา...เรื่องและภาพ
รางวัลเนื้อหาดีเด่นจากโครงการอบรมเยาวชน Youth Bloggers รุ่นที่ ๑๓ โรงเรียงสอาดเผดิมวิทยา จังหวัดชุมพร
ศาลาของหลวงปู่ศุข
วัดปากคลองมะขามเฒ่า บรรยากาศเงียบเหงา มีเพียงกลิ่นธูปจาง ๆ และก้านธูปสีแดงเก่า ๆ ซึ่งคนมาจุดไว้นานแล้วปักอยู่ในกระถาง
ทั้งที่ศาลาแห่งนี้ตั้งอยู่ด้านหลังของตำหนักกรมหลวงชุมพรหรือ
“เสด็จเตี่ย” ซึ่งเต็มไปด้วยผู้คนมากมาย อบอวลด้วยกลิ่นธูป ครึกครื้นไปด้วยเสียงเซ็งแซ่
ทำไมบรรยากาศของสถานที่สองแห่งถึงได้แตกต่างกันถึงขนาดนี้
หลายคนที่มาเที่ยวหาดทรายรี
มักจะมาแวะกราบไหว้เสด็จเตี่ย แล้วก็เดินทางไปที่อื่น ๆ ต่อ โดยลืมไปว่าใกล้กันกับตำหนักกรมหลวงชุมพรฯ
ยังมีศาลของ “หลวงปู่ศุข” วัดปากคลองมะขามเฒ่าตั้งอยู่
จะมีสักกี่คนที่ทราบว่าหลวงปู่ศุขนั้นเป็นอาจารย์ของเสด็จเตี่ย
ตลอดชีวิตของหลวงปู่ศุขมีลูกศิษย์มากมาย แต่ผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็น
"ศิษย์เอก" คือกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์
ไม่ใช่เพราะเสด็จเตี่ยมีเชื้อสายเจ้าหรือเป็นพระโอรสของรัชกาลที่
๕ แต่ที่นับว่าเป็นศิษย์เอก ก็เพราะว่าศิษย์คนนี้
รักและเคารพอาจารย์อย่างยอมตายถวายชีวิต
บันทึกจากคนเฒ่าคนแก่ยืนยันว่าเสด็จเตี่ย
ได้รับการถ่ายทอดวิชาอาคมจากหลวงปู่ศุขไว้มากที่สุดเหนือกว่าศิษย์คนใด ทั้งยังมีความผูกผันกันอย่างลึกซึ้งดุจพ่อลูก
ครั้งเสด็จเตี่ยสิ้นพระชนม์ เมื่อหลวงปู่ศุขได้รับทราบข่าว
ท่านก็ถึงกับนั่งซึม และเป็นเช่นนั้นนานมาก จนในที่สุดหลวงปู่ศุขได้มรณภาพลงด้วยโรคชราในปลายปี
พ.ศ. ๒๔๖๖ อันเป็นปีเดียวกับที่เสด็จเตี่ยสิ้นพระชนม์
เสด็จเตี่ยได้ถวายเรือให้หลวงปู่ศุขใช้ในการบิณฑบาต
มีความยาว ๘ ศอก โดยสั่งต่อเป็นพิเศษ ทำด้วยไม้ชิ้นเล็ก ๆ อัดด้วยตะปูทองแดงทั้งลำ
เรือลำนี้ไม่ต้องใช้ชันยาก็ไม่รั่ว นอกจากนี้ตรงกลางลำเรือยังมีพนักพิงสวยงาม
มีพนักทำโปร่ง สามารถถอดออกจากเรือได้ ทำเป็น ๓ ชิ้น เวลาไม่ใช้ก็พับได้
เวลาที่หลวงปู่ศุขท่านนั่งเรือออกบิณฑบาต ท่านจะนั่งตรงกลาง
มีลูกศิษย์พายหัวพายท้าย หลังจากที่หลวงปู่ได้มรณภาพลง
เรือลำนี้ยังคงใช้ได้อยู่จนถึงสมัยสมุหทองหล่อ ทัศมาลี จากนั้นได้นำมาเก็บไว้ที่หอประชุมทางด้านเหนือของบริเวณวัดปากคลองมะขามเฒ่า
เพราะเป็นหน้าแล้ง และไม่ได้นำมาใช้อีกเลย
มีเรื่องเล่าบอกต่อ
ๆ กันมาว่าเสด็จเตี่ย ทรงโปรดการใช้วิถีชีวิตกลางแจ้ง
ท่านจะวัดปากคลองมะขามเฒ่าบ่อย ๆ ส่วนใหญ่แล้วพระองค์จะเสด็จมาทางเรือ
บางครั้งก็มีเรือติดตามมาด้วยหลายลำ ในการเสด็จมาของพระองค์นั้น บางครั้งจะทรงนำหม่อมและโอรสมาด้วย
มีหลักฐานเป็นลายพระหัตถ์ในสมุดเซ็นเยี่ยมของวัด
บางครั้งกรมหลวงชุมพรฯ
จะทรงคุยกับหลวงปู่ศุขจนถึงดึกดื่น
บางครั้งจะประทับที่วัดปากคลองมะขามเฒ่าอยู่เป็นเดือน ๆ
ซึ่งนอกจากจะมาศึกษาวิชาไสยศาสตร์แล้ว พระองค์ยังถือโอกาสพักผ่อนพระวรกายและยังได้คลุกคลีกับราษฎร
จากเรื่องเล่าต่าง
ๆ ที่กล่าวมานี้ ย่อมแสดงว่าหลวงปู่ศุขเป็นผู้ที่เสด็จเตี่ยรักและเคารพเป็นอย่างมาก
เพราะฉะนั้นจึงไม่อยากให้ทุกคนที่มายังหาดทรายรี
มากราบไหว้เพียงแค่เสด็จเตี่ยเท่านั้น แต่อยากให้ทุกคนนึกถึงศาลาหลวงปู่ศุขที่ตั้งอยู่ทางด้านหลังของตำหนักของเสด็จเตี่ยด้วย