ภัณฑิรา ดวงใจ...เรื่อง
รางวัลเนื้อหาดีเด่น YOUTH
BLOGGERS รุ่นที่ ๒๑ โรงเรียนนารีรัตน์จังหวัดแพร่
ณภัทร เหมืองทอง...ภาพ
รางวัลภาพถ่ายดีเด่น YOUTH
BLOGGERS รุ่นที่ ๒๑ โรงเรียนนารีรัตน์จังหวัดแพร่
“สมัยพ่อนะ ตอนกลางคืนเขาไม่ค่อยมีใครผ่านคุ้มเจ้าหลวงหรอก เขาบอกว่ามักจะได้ยินเสียงประหลาดดังแว่วมาจากคุก”
“แน่ะ จะมาหลอกให้กลัวอีกแล้ว”
นั่นคือภาพจำในช่วงเวลาหนึ่งที่ฉันได้สนทนากับพ่อเกี่ยวกับคุ้มเจ้าหลวงเมืองแพร่
ในตอนนั้นฉันคิดว่าพ่อต้องมาแกล้งให้กลัวแน่ๆ
เพราะโรงเรียนของฉันก็อยู่ตรงข้ามกับคุ้มเจ้าหลวง เดินผ่านทุกวัน อยู่ที่โรงเรียนจนมืดค่ำ
ก็ไม่เคยได้ยินเสียงอะไร
จนวันนี้เอง
ฉันได้มีโอกาสมาเที่ยวที่คุ้มเจ้าหลวง เอาล่ะ ไปพิสูจน์คำพูดของพ่อกันดีกว่า
“รู้ไหม เขาให้หันหลังเข้านะ” เพื่อนสนิทมิตรสหายนาม “น้ำตาล”
ได้กล่าวขึ้นในขณะที่ฉันกำลังจะเดินเข้าไปสำรวจภายในคุก
การมาเยี่ยมชมคุกที่ใต้ถุนคุ้มเจ้าหลวงเมืองแพร่นั้น
มีเคล็ดว่าให้เดินหันหลังเข้าไปในคุก เพราะถือว่าเราจะไม่ได้เดินเข้าแบบนักโทษปกติ
จะได้ไม่ต้องเข้าคุกจริง ๆ ทีหลัง
“เออ ตอนเด็ก ๆ เคยมาที่นี่ พี่มัคคุเทศก์เขาบอกว่า
นอกจากเจ้าหน้าที่ที่ดูแล ถ้าเป็นคนอื่นที่ไม่ใช่เจ้าหน้าที่นะ ถ้าหยิบของมาโดยไม่ได้ขอ
เดินหยิบมาหน้าตาเฉย แสดงว่าคนนั้นมีความผูกพันกับสิ่งนั้น” มิตรสหายคนเก่าเจ้าเดิมกล่าวขึ้นมาอีกครั้ง
เมื่อเราเดินมาดูบริเวณที่จัดแสดงโซ่ตรวนที่ใช้ล่ามนักโทษ
“อื้อหือ
ทำไมความเชื่อเกี่ยวกับคุกถึงได้เยอะแยะขนาดนี้นะ ยังมีเรื่องที่ไม่รู้อีกหรือเปล่าเนี่ย”
ฉันนึกในใจ มาเที่ยวคราวนี้นอกจากจะมาพิสูจน์คำพูดพ่อแล้ว จะพิสูจน์คำพูดเพื่อนด้วยดีไหม
ถ้าไปถามพี่มัคคุเทศก์ พี่เขาจะเล่าเรื่องลากยาวเหยียดไปถึงสุไหงโกลกไหม
แต่มาถึงที่นี่ มีโอกาสแล้ว ก็ไปถามพี่เขาสักหน่อยเถอะ
“อ๋อ คุกหรอ เมื่อก่อนมันไม่ใช่คุกนะ มันเป็นเหมือนห้องเก็บสมบัติของเจ้าเมืองกับที่อยู่ของทาส
ที่เห็นเป็นช่องบนพื้นน่ะ เขาสันนิษฐานว่าเอาไว้ใช้สำหรับให้เจ้าเมืองเปิดเรียกใช้ทาสที่อยู่ชั้นล่าง” พี่โจ การุณ ยาโน มัคคุเทศก์จิตอาสา
อธิบายให้ฉันฟัง
“อ้าว ตกลงมันไม่ใช่คุกหรอกหรือคะ”
“ตอนแรกน่ะไม่ใช่ แต่พอเกิดกบฏเงี้ยวเมืองแพร่ ช่วงปี พ.ศ. ๒๔๔๕ สมัยรัชกาลที่
๕ ส่งกองทัพขึ้นมาปราบเสร็จแล้วใช่ไหม เขาก็เอาพวกนักโทษมาฝากขังไว้ที่นี่ก่อน แต่แค่ชั่วคราวนะ
ประมาณ ๒ สัปดาห์ จากนั้นเขาก็ย้ายไปเรือนจำ แต่ตอนขังอยู่ที่นี่ เขาแบ่งเป็นห้องด้วยนะ
จะมี ๓ ห้อง ห้องตรงกลางที่มืด ๆ เขามีไว้สำหรับนักโทษสถานหนัก ไม่ให้ข้าวให้น้ำ ส่วนสองห้องข้าง ๆ เป็นโทษเบา ยังมีโอกาสได้เห็นเดือนเห็นตะวันบ้าง”
พี่โจอธิบายต่อ
“พี่คะ พ่อหนูเคยเล่าให้ฟังว่าสมัยพ่อ ตอนกลางคืนจะได้ยินเสียงแปลก ๆ จากคุก
มันเป็นเรื่องจริงไหมคะ”
ฉันเหลือบมองนาฬิกา เห็นว่าใกล้ได้เวลาที่ต้องไปทำธุระแล้ว
จึงรีบถามคำถามที่คาใจ และเป็นเหตุผลที่ทำให้ฉันสนใจที่นี่เป็นพิเศษ
“น่าจะมี แต่เราน่าจะไม่ทัน เพราะห้องตรงกลางเขาไม่ให้ข้าวให้น้ำไง คงมีตายกันบ้าง
แต่คนที่ยังไม่ตายที่เขาย้ายไปน่ะ บางคนก็ไปรอประหาร” คำตอบจบลงพร้อมกับเวลาที่หมดไป
ฉันกล่าวขอบคุณพี่โจ ก่อนรีบไปทำธุระให้เสร็จ
เป็นอันว่ามาคุ้มเจ้าหลวงเมืองแพร่คราวนี้
ฉันได้ข้อสรุปของฉันแล้วล่ะ ว่าพ่อไม่ได้เล่าเรื่องแกล้งหลอกให้กลัว
แต่แล้วก็เกิดคำถามอีกข้อขึ้นมาในใจว่า
ครั้งหน้าฉันจะมาเที่ยวอีกดีไหม เพราะว่าชั้นอื่น ๆ ยังไม่ได้ลองขึ้นไปสำรวจเลย
No comments:
Post a Comment