Sunday, November 18, 2018

ผลิตภัณฑ์ปลอดสารพิษ ทีเด็ดประแส


ชลิตา วงค์เกี่ย...เรื่องและภาพ

 ชุมชนปากน้ำประแสอยู่ติดแม่น้ำ อำเภอแกลง จังหวัดระยอง  มีอะไรที่น่าค้นหา น่ามาลอง มากกว่าแค่มาเที่ยวตามสถานที่ท่องเที่ยว เพราะยังมีอาหารพื้นเมืองและสินค้าต่าง ๆ อีกมากมาย ที่รอให้นักท่องเที่ยวมาช็อป มาชิม   

ผลิตภัณฑ์เด็ดของชุมชนที่ทุกคนมาแล้วห้ามพลาด ควรจะแวะมาซื้อกลับไปคือ “กะปิเจ๊แหม่ม” ขายอยู่ที่ถนนคนเดินปากน้ำประแส

ร้านนี้เกิดจากการที่บ้านอยู่ติดกับแม่น้ำ ในสายน้ำจะมีสัตว์น้ำต่าง ๆ มากมาย โดยเฉพาะ “เคย” ที่มีลักษณะคล้าย ๆ กับกุ้ง แต่ตัวเล็กมาก นำมาทำกะปิได้

กะปิสามารถใช้ทำอาหารได้หลาย ๆ อย่าง เช่น น้ำพริกกะปิ มีรสชาติกลมกล่อม  ที่บ้านของป้าแหม่มมีอุปกรณ์ยกเคย ทำเคย ป้าแหม่มจึงคิดจะทำกะปิ


ป้าแหม่มบอกว่าขั้นตอนคือยกเคย นำเคยมาล้างให้สะอาด นำสิ่งสกปรกที่ปะปนมาออก นำมาตากพอหมาด นำมาชั่ง ในอัตราส่วนเกลือ ๑ ส่วน เคย ๑๐ ส่วน  สูตรนี้ได้มาจากการลองผิดลองถูกของป้าแหม่ม ลองทำอยู่นาน จึงได้สูตรนี้มา นำมาเคล้ารวมกันจนเข้ากัน

ใส่ถังปิดฝาให้มิดทิ้งไว้ ๒-๓ วัน แล้วตาก ทำซ้ำ ๒-๓ รอบ แต่ต้องระวัง ถ้าตากนานไปจะแข็ง เสร็จแล้วนำมาตำหรือโม่  ปัจจุบันที่ร้านใช้วิธีการโม่และ นำมาอัดใส่โหล


ครั้งแรกที่เริ่มทำทำกินกันในครอบครัว และแจกชาวบ้าน ต่อมาเริ่มได้เคยเยอะขึ้น ทำให้ป้าแหม่มทำกะปิได้มากขึ้น จนกินไม่ไหว เลยทำขาย ขายในราคาที่ไม่แพงเกินไป  และจะทำได้เยอะในช่วงที่มีเคย เช่น ช่วงเดือนตุลาคมนี้

ที่สำคัญกะปินี้ทำมาจากธรรมชาติล้วน ๆ จึงไม่มีสารพิษและไม่เหม็น อยากให้ทุกคนได้มาลองสัมผัสและมาซื้อกะปิไร้สารพิษนี้ ได้ที่ชุมชนปากน้ำประแส


เราเชื่อว่าทุกคนจะต้องหอบหิ้วกะปิกลับบ้านกันไปจนเกือบหมดร้าน และต้องกลับมาซื้อใหม่อีกครั้งอย่างแน่นอน
 

“กะปิเจ๊แหม่ม” มีหลากหลายขนาดและราคาให้เลือก กระปุกเล็ก ๕๐ บาท กระปุกกลาง ๑๒๐ บาท กระปุกใหญ่  ๒๐๐ บาท จัดจำหน่ายโดยนางสมัญญา บำเพ็ญทาน อายุ ๔๘ ปี ตำบลปากน้ำประแส อำเภอแกลง จังหวัดระยอง โทรศัพท์ ๐๘ ๑๗๙๔ ๙๙๔๔


Friday, November 9, 2018

โครงการอบรมเยาวชน YOUTH BLOGGERS รุ่นที่ ๒๐ โรงเรียนชุมชนวัดตะเคียนงาม


  

                  อนุสาร อ.ส.ท. ร่วมกับสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) จัดโครงการอบรมเยาวชน
 YOUTH BLOGGERS  รุ่นที่ ๒๐ ขึ้น ณ โรงเรียนชุมชนวัดตะเคียนงาม อำเภอแกลง จังหวัดระยอง ในระหว่างวันที่ ๓๐-๓๑ ตุลาคม ๒๕๖๑ ที่ผ่านมา โดยมีนักเรียนในระดับมัธยมศึกษาปีที่ ๑-๓ ของโรงเรียนเข้าร่วมโครงการ ฯ  รวมทั้งสิ้น ๔๐ คน 



โดยในพิธีเปิดการอบรม นางอัญชลี สารสุวรรณ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนชุมชนวัดตะเคียนงามกล่าวต้อนรับ นายภาคภูมิ น้อยวัฒน์ บรรณาธิการฝ่ายภาพ อนุสาร อ.ส.ท. กล่าวรายงานความเป็นมาของโครงการ และนายไชยรัตน์ เอื้อตระกูล นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลปากน้ำประแส ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีเปิดและให้โอวาทเยาวชนที่เข้ารับการอบรม  


     ช่วงเช้าของวันแรกเป็นการอบรมภาคทฤษฏี  โดยนายภาคภูมิ น้อยวัฒน์ บรรณาธิการฝ่ายภาพ อนุสาร อ.ส.ท. ทำหน้าที่วิทยากร บรรยายเรื่องเทคนิคการเลือกประเด็นในการนำเสนอ การเก็บข้อมูลภาคสนามเบื้องต้น รวมทั้งเทคนิคการเขียน และการถ่ายภาพสารคดีท่องเที่ยวเบื้องต้น ให้กับเยาวชนที่เข้ารับการอบรม


     ช่วงบ่ายเป็นการฝึกปฏิบัติภาคสนาม โดยคณะเยาวชน YOUTH BLOGGERS รุ่นที่ ๒๐ ลงพื้นที่เก็บข้อมูลและถ่ายภาพประกอบสำหรับจัดทำสารคดีสั้น ในบริเวณชุมชนปากน้ำประแส ที่ประกอบด้วยห้องแถวไม้อันเป็นอาคารเก่าแก่อายุร่วมร้อยปี บนสองฟากทางเต็มไปด้วยร้านรวงขนมนมเนยพื้นบ้าน ข้าวของเครื่องใช้ ตลอดจนเรื่องราวของชุมชนประมงแต่ดั้งเดิม ที่ยังหลงเหลือให้ได้สัมผัสและเสาะหาความประทับใจ นำไปเป็นหัวข้อในการสร้างสรรค์ผลงาน



ในวันที่สอง เยาวชนผู้เข้าอบรมฝึกเชิงปฏิบัติการเขียนสารคดีสั้นและคัดเลือกภาพถ่าย บอกเล่าเนื้อหาและภาพความประทับใจจากชุมชนปากน้ำประแสที่ไปพบเห็นมา ผ่านทางเครือข่ายชุมชนออนไลน์  พร้อมนำเสนอแนวคิดในการสร้างสรรค์ผลงาน โดยมีวิทยากรให้คำวิจารณ์ผลงานแต่ละชิ้น เพื่อเป็นแนวทางนำไปปรับปรุงในโอกาสต่อไป 


ผลงานที่ได้รับรางวัลจากการประกวดภายใน Youth Bloggers รุ่นที่  ๒๐ มีดังนี้ รางวัลนำเสนอดีเด่น ได้แก่ เด็กหญิงณัฐณิชา น้อยเจริญ จากสารคดีเรื่อง “ตลาดแห่งความสุข” รางวัลเนื้อหาดีเด่น ได้แก่ เด็กหญิงชลิตา วงศ์เกี่ย จากสารคดีเรื่อง “ผลิตภัณฑ์ปลอดสารพิษ ทีเด็ดประแส”  รางวัลภาพถ่ายดีเด่น ได้แก่ เด็กหญิงกิตติมา ตระกูลดี จากสารคดีเรื่อง “น้องเคย สินค้าชุมชน” และรางวัลเนื้อหาและภาพถ่ายดีเด่น ได้แก่ เด็กหญิงพรฤดี จงสวัสดิ์ จากสารคดีเรื่อง “หลีบูติค”  โดยบรรณาธิการฝ่ายภาพอนุสารอ.ส.ท. เป็นผู้มอบรางวัลแก่ผู้ชนะการประกวดพร้อมทั้งมอบประกาศนียบัตรแก่ผู้เข้ารับการอบรม  นางอัญชลี สารสุวรรณ์  ผู้อำนวยการโรงเรียนชุมชนวัดตะเคียนงาม ให้เกียรติร่วมในพิธีมอบรางวัลและประกาศนียบัตร และกล่าวปิดการอบรม


 ร่วมสนุกส่งภาพถ่ายและบอกเล่าเรื่องราวแหล่งท่องเที่ยวใกล้บ้านเข้าประกวด ชิงรางวัลกล้องคอมแพ็กต์มูลค่า ๓,๐๐๐ บาท พร้อมประกาศนียบัตร และเสื้อยืด YOUTH BLOGGERS เป็นประจำทุกเดือน โดยดูรายละเอียดการส่งผลงานเข้าประกวด และชมภาพถ่ายกิจกรรมและผลงานของเยาวชน YOUTH BLOGGERS ได้ที่ อนุสาร อ.ส.ท. ในคอลัมน์ “เยาวชนตากล้องท่องเที่ยวไทย” เป็นประจำทุกเดือน และทางออนไลน์ที่กลุ่ม www.facebook.com/groups/osothoYB และที่แฟนเพจ www.facebook.com/youthbloggers

Thursday, September 27, 2018

โรงกษาปณ์เเร่นอง




ภัคศวรรษ รักไทย...เรื่องและภาพ
 ผลงานรางวัลเนื้อหาและภาพดีเด่น Youth Bloggers รุ่นที่ ๑๘ โรงเรียนพิชัยรัตนาคาร จังหวัดระนอง
๑๗ ปี เเล้วที่ผมเติบโตขึ้นมาในจังหวัดเล็ก ๆ นี้  ระนอง “เมืองฝนเเปดเเดดสี่” ของประเทศไทย
ที่ผ่านมา วัน ๆ ผมเอาเเต่ขี่มอเตอร์ไซค์ไปมาเที่ยวโน่นเที่ยวนี่ บ่อยครั้งที่ผมมักจะขับรถผ่านบ้านเก่า ๆที่ตั้งอยู่บนถนนดับคดี ข้างศาลประจำจังหวัดระนอง ทุกครั้งที่ผ่าน ผมไม่ได้สนใจเท่าไร เนื่องจากคิดเสมอว่ามันเป็นเเค่บ้านเก่าธรรมดาหลังหนึ่ง
จนกระทั่งเมื่อวันที่ผ่านมานี้เอง ผมมีโอกาสได้ร่วมไปทัศนศึกษาในสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ของเมืองระนอง ที่มีชื่อว่า "บ้านร้อยปีเทียนสือ" ได้ยินชื่อตอนแรก ผมไม่ได้คิดอะไร เพราะในใจนึกอยู่ว่าน่าจะต้องเป็นจวนผู้ว่า ฯ อย่างเเน่นอน
แต่เมื่อมาถึงบ้านร้อยปีเทียนสือเข้าจริง    ผมก็ต้องตกใจอยู่ไม่น้อยเลย เพราะว่ามันคือบ้านเก่า ๆ หลังที่ผมขี่รถมอเตอร์ไซค์ผ่านเกือบทุกวัน

มองดูจากภายนอกเเล้ว มันคือบ้านที่สร้างขึ้นมาจากไม้ มีการออกแบบบ้านรูปทรงแปลก ๆ ไม่ค่อยเหมือนกับบ้านทรงไทยทั่วไป ทั้งลวดลายพื้น ลักษณะขอบหน้าต่าง รวมถึงของตกแต่งในบ้านเช่น เก้าอี้ สิ่งของต่าง ๆ ดูเเปลกตาไปหมด
ผมเก็บความสงสัยนี้ ไปถามลุงคนหนึ่งซึ่งเป็นเจ้าของสถานที่ ชื่อ “ลุงศุภ” (ศุภพรพงศ์ชัย พรพงษ์) ว่า “คุณลุงครับ ผมสงสัยครับ ว่าเดิมทีใครเป็นเจ้าของที่นี้"
ลุงศุภบอกผมว่า “บ้านหลังนี้เดิมทีเป็นบ้านของท่านเทียนสือ หลานเขยของพระยารัษฎานุประดิษฐ์ บ้านหลังนี้มีอายุมากกว่า ๑๐๐ ปีอีกนะ"


“เเล้วทำไมถึงสร้างบ้านทรงแปลกจังเลยครับ ดูอย่างหน้าต่างก็เเปลก ขอบหน้าต่างก็แปลก แถมยังทำเหล็กดัดที่หน้าต่างเสียหนา ต่างจากบ้านคนอื่นทั่วไปตั้งหลายเท่า"
 ลุงศุภตอบว่า “บ้านหลังนี้เดิมทีมีชื่อว่า อั้งม้อเหลา เทียนสือ “อั้ง” หมายถึงสีเเดง “ม้อ” หมายถึงผม เเละ “เหลา” หมายถึงบ้าน แปลรวมเเล้วคือ “บ้านหัวเเดง” หมายถึงบ้านแบบฝรั่งนั่นเอง นี่จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้บ้านหลังนี้มีลักษณะต่างจากบ้านทั่วไป ส่วนเหตุผลที่ว่าทำไมส่วนต่าง ๆ ของบ้าน สร้างเเปลก ๆ ก็คือในสมัยก่อนมันไม่มีธนาคาร บ้านหลังนี้จึงเป็นเหมือนกับธนาคาร จึงต้องสร้างเหล็กดัดที่หน้าต่างให้หนาเป็นพิเศษ หนูลองมองไปที่ขอบหน้าต่างสิ"
ผมมองไปที่ขอบหน้าต่าง
“หนูเห็นเป็นอะไร”  ลุงศุภถาม
“ไม่รู้สิครับ มันค่อนข้างจะเเปลกในความคิดของผม” ผมตอบกลับไป พร้อมทำสีหน้างง ๆ
ลุงศุภจึงบอกผมว่า “ถ้าหนูมองตรงขอบหน้าต่างให้ดี ๆ หนูจะเห็นว่ามันคือหมวกของทหารคลุมอยู่ 
             ตรงฐานของหน้าต่างที่เป็นหยักเหลี่ยม ๆ ยังบอกถึงยศของทหารเหล่านั้นด้วย เเละสิ่งที่คลุมอยู่นั้นคือบล็อกสี่เหลี่ยม ซึ่งบล็อกเหล่านั้นหมายถึงก้อนทอง นั่นเเสดงให้เห็นถึงการคุ้มกันทอง ตามหลักฮวงจุ้ยของจีนเเละถ้าหนูมองตรงพื้นดีๆ หนูจะเห็นพื้นเป็นรูปข้าวหลามตัดทั่วพื้นบ้าน นั้นเป็นสัญญลักษณ์ของทองที่มีอยู่มากมายนั้นเอง"


              หลังจากได้ฟังที่ลุงศุภเล่า คำถามต่าง ๆ ในหัวผมก็หายไป จนผมเดินไปพบเก้าอี้ที่มีลักษณะแปลกออกไปจากเก้าอี้โดยทั่วไป จึงถามลุงศุภต่ออีกว่า "คุณลุงครับ ทำไมเก้าอี้นี้มันถึงเป็นแบบนี้ละครับ"
 ลุงศุภตอบผมว่า “จริง ๆ เเล้วมันถูกออกแบบมาให้มีลักษณะเหมือนก้อนทองคำสมัยก่อนของจีน” 
คำถามในหัวของผมจบลง พร้อมกับหมดเวลาที่จะให้ผมได้สงสัยต่อเเล้วเหมือนกัน เพราะผมต้องไปทัศนศึกษาที่อื่นต่อ เเต่ผมเชื่อว่าสิ่งที่ผมรู้ มันยังเป็นเพียงเเค่ความรู้เล็ก ๆ น้อย ๆ เท่านั้น เกี่ยวกับ “บ้านร้อยปีเทียนสือ"  ต้องมีเรื่องราวอีกมากมายที่ผมยังไม่รู้
เเละถ้าผมมีเวลาว่าง ผมจะต้องกลับมาที่นี่อีกเเน่นอน.




Tuesday, September 11, 2018

โครงการอบรมเยาวชน YOUTH BLOGGERS รุ่นที่ ๑๘



   

อนุสาร อ.ส.ท. ร่วมกับสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) จัดโครงการอบรมเยาวชน YOUTH BLOGGERS  รุ่นที่ ๑๘ ขึ้น ณ โรงเรียนพิชัยรัตนาคาร อำเภอเมือง ฯ จังหวัดระนอง ในระหว่างวันที่ ๒๔-๒๕ กรกฎาคม ๒๕๖๑ ที่ผ่านมา โดยมีนักเรียนในระดับมัธยมศึกษาปีที่ ๕ และ ๖ ของโรงเรียนพิชัยรัตนาคารเข้าร่วมโครงการ ฯ  รวมทั้งสิ้น ๔๕ คน




ในพิธีเปิดการอบรมนายชวนะ คำกล้า ผู้อำนวยการโรงเรียนพิชัยรัตนาคารได้กล่าวต้อนรับ  โดยมี      นายชัยภัทร เศรษฐยุกานนท์ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดระนอง ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีเปิด



 ช่วงเช้าของวันแรกเป็นการอบรมภาคทฤษฏี  นายภาคภูมิ น้อยวัฒน์ บรรณาธิการฝ่ายภาพ อนุสาร อ.ส.ท. ทำหน้าที่วิทยากร บรรยายเรื่องเทคนิคการเลือกประเด็นในการนำเสนอ การเก็บข้อมูลภาคสนามเบื้องต้น รวมทั้งเทคนิคการเขียนและการถ่ายภาพสารคดีท่องเที่ยวเบื้องต้น ให้กับเยาวชนที่เข้ารับการอบรม


ช่วงบ่ายเป็นการฝึกปฏิบัติภาคสนาม โดย Youth Bloggers รุ่นที่ ๑๘ นี้ ลงพื้นที่เก็บข้อมูลและถ่ายภาพประกอบสำหรับจัดทำสารคดีสั้น ณ บ้านโบราณ ๑๐๐ ปีเทียนสือ แหล่งท่องเที่ยวใหม่ล่าสุดของจังหวัดระนอง ที่ภายใต้อาคารเก่าแก่เต็มไปด้วยภาพถ่ายโบราณ และสิ่งของที่บอกเล่าเรื่องราวในยุคการทำเหมืองแร่ อันเป็นต้นกำเนิดของเมืองระนองอยู่อย่างมากมาย


จากนั้นจึงไปเก็บข้อมูลของพื้นที่ในแหล่งที่สองคือพระราชวังรัตนรังสรรค์ (จำลอง) ซึ่งมีประวัติว่าทางพระยารัตนเศรษฐี เจ้าเมืองระนอง ได้สร้างพระราชวังแห่งนี้ขึ้นด้วยไม้สักและไม้ตะเคียนทองอย่างดี ด้วยรูปแบบสถาปัตยกรรมแบบยุโรป คาบานาส เพื่อรับเสด็จพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ เมื่อคราวเสด็จประพาสหัวเมืองภาคใต้ฝ่ายตะวันตก  เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๓๓



จุดสุดท้ายสำหรับการฝึกปฏิบัติภาคสนามคือวัดบ้านหงาว อำเภอหงาว ซึ่งในอุโบสถของวัดประดิษฐานพระพุทธรูปดีบุกขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และโดยรอบของอุโบสถประดับด้วยลวดลายปูนปั้นบอกเล่าประวัติความเป็นมาของเมืองระนอง


ในวันที่สองผู้เข้าอบรมฝึกเชิงปฏิบัติการเขียนสารคดีสั้นและคัดเลือกภาพถ่าย บอกเล่าเนื้อหาและภาพผ่านทางเครือข่ายชุมชนออนไลน์  พร้อมนำเสนอแนวคิดในการสร้างสรรค์ผลงาน โดยมีวิทยากรให้คำวิจารณ์ผลงานแต่ละชิ้น เพื่อเป็นแนวทางนำไปปรับปรุงในโอกาสต่อไป 

ผลงานที่ได้รับรางวัลจากการประกวดภายใน Youth Bloggers รุ่นที่ ๑๘ มีดังนี้ รางวัลนำเสนอดีเด่น ได้แก่ นายชนกันต์ บุญกิจ รางวัลเนื้อหาดีเด่น ได้แก่ นางสาวณัฏฐ์พิชา รัตนมณีฉาย จากสารคดีเรื่อง “แกะรหัส บ้านเทียนสือ”   รางวัลภาพถ่ายดีเด่น ได้แก่ นางสาวณูวาณิชย์ คล้ายมุข จากสารคดีเรื่อง “รู้หรือเปล่า วัดหงาวก็มีนะ” และรางวัลเนื้อหาและภาพถ่ายดีเด่น ได้แก่ นายภัคศวรรษ รักไทย จากสารคดีเรื่อง “โรงกษาปณ์แร่นอง” โดยบรรณาธิการฝ่ายภาพอนุสารอ.ส.ท. เป็นผู้มอบรางวัลแก่ผู้ชนะการประกวด และมอบประกาศนียบัตรแก่ผู้เข้ารับการอบรม  โดยมีนางสาวพัดชา ช่วยปลอด รองผู้อำนวยการโรงเรียนพิชัยรัตนาคารให้เกียรติร่วมในพิธีมอบรางวัลและประกาศนียบัตร และกล่าวปิดการอบรม



Tuesday, June 19, 2018

STORY


เทพอักษร ย้อนเพชร...เรื่อง Youth Bloggers...ภาพ  
ผลงานสารคดีสั้นรางวัลเนี้อหาดีเด่นในโครงการอบรมเยาวชน Youth Bloggers รุ่นที่ ๑๗ โรงเรียนบ้านไร่วิทยา จังหวัดอุทัยธานี

            เราเดินทางออกจากโรงเรียนเมื่อเวลาตอนบ่ายโมง

            
ใช้เวลาในการเดินทางมาถึงต้นไม้ยักษ์ประมาณ ๒๐ นาที กว่าจะมาถึงนั้นดูเหมือนมันจะไม่ง่ายเลยเสียทีเดียว เพราะเส้นทางที่คดเคี้ยวไปมา ฉันลืมบอกไป ว่าฉันมารถบัสของโรงเรียน นึกดูนะ รถบัสคงบังคับยากน่าดู เราชื่นชมคนขับมากที่สามารถขับในทางที่คดเคี้ยวไปมานี้ได้

             โครงการอบรมเยาวชน Youth Bloggers ให้เวลาในการถ่ายรูปที่ต้นไม้ยักษ์ประมาณ ๑ ชั่วโมง เราเดินลงรถมาสิ่งที่เราเห็นครั้งแรกคือของที่วางขายคล้ายประหนึ่งตลาด แต่ของขายไม่มากเท่าไหร่ เราเดินเข้าไปตามทางที่ระหว่างสองข้างทางจะเป็นร้านขายของสำหรับคนท้องถิ่น ด้านหลังของร้านขายของเป็นลำธารที่มีน้ำไหลผ่านตลอดและอีกฝั่งจะเป็นป่า 


            เราเดินเข้าไปไม่นานนักก็พบต้นไม้ยักษ์ ไม่ใกล้ไม่ไกลจากต้นไม้ยักษ์ยังมีศาลเจ้าที่อยู่ด้วย ใครที่ไปเยี่ยมชมก็อย่าลืมไปไหว้ท่านกันด้วยนะ ต้นไม้ยักษ์เป็นต้นไม้ที่สูงมาก มีรากและโคนที่ใหญ่มากเลยละ เราเองนี่ก็เพิ่งเคยมาครั้งแรก ขนาดอยู่ที่อำเภอบ้านไร่นะ 555 พอเดินเข้าไปอีกก็จะพบกับป่าหมากจำนวนมากอยู่รายรอบล้อมต้นไม้ยักษ์ มีต้นไม้อีกหลายชนิดเลยที่เกาะอยู่ตามต้นหมาก ตามใต้ต้นรากโคนที่ใหญ่นั้นก็จะมีสัตว์เล็กสัตว์น้อยอาศัยอยู่เต็มไปหมด ถือเป็นป่าหมากที่อุดมสมบูรณ์มากเลยทีเดียว 

            เราตามเก็บภาพตามประสาของเราไป พอถึงเวลาใกล้จะขึ้นรถ พี่ ๆ วิทยากรก็เรียกน้อง ๆ ไปขึ้นรถ ระหว่างทางเดินกลับ เราก็สังเกตเห็นกล้วยวางอยู่บนแคร่ มันดูสวยดีเลยเข้าไปถ่ายภาพ แต่สิ่งที่พบนั้นเป็นกล้วยที่มีแมลง มด และผึ้งเจาะกินอยู่ เราเลยถ่ายภาพเก็บไว้ ต้องความใจเย็นและระมัดระวังมาก ๆ เลย ก็ผึ้งเล่นบินตลอดเลยนี่นา กว่าจะนิ่งได้ก็ตอนหยุดกินกล้วย หรือดูดน้ำหวานจากกล้วยก็ไม่รู้สิ^^ 


            หลังจากนั่นเราก็ไปขึ้นรถไปถ่ายภาพต่อที่วัดถ้ำเขาวง แต่ฟ้าฝนอาจไม่เป็นใจ อยู่ ๆ ก็ตกลงมา ตอนแรกเราคิดว่าคงต้องรออยู่รถอีกนาน แต่ไม่เลย พอถึงถ้ำเขาวงสักพักนิด ๆ ฝนก็หยุดตก ทำให้พื้นพอชุ่มชื้นขึ้นมา ท้องฟ้าวันนี้มืดครึ้มตลอดทั้งวันเลย พอฝนหยุดตกเราก็ลงจากรถ ลงมาถ่ายภาพด้วยเวลาที่มีจำกัด และเราที่ลีลาเอามาก ๆ จึงไม่ค่อยได้ถ่ายอะไรมาเลย เราเดินไปไม่ทั่วด้วยซ้ำ 😢 

               แต่อย่างว่าล่ะ ถึงแม้จะเดินไปไม่ทั่ว แต่แค่เดินไปทางเข้าก็พบกับความสวยงาม เราเดินไปบนพื้นอิฐสีแดงตัดกับสีเขียวสองข้างทางที่มีหญ้าและไม้ดอกไม้ประดับคล้าย ๆ สวนฝนที่เพิ่งตกทำให้ใบไม้มีละอองน้ำเกาะอยู่  ให้ความรู้สึกชุ่มชื่น ผ่อนคลาย และสบายตามาก 

            พอเราเดินไปจนสุดก็จะพบกับความสวยที่มองจากมุมไกล เห็นภูเขาลูกใหญ่เป็นพื้นหลัง และมีวัดซึ่งมีลักษณะเป็นสถาปัตยกรรมบ้านเรือนไทยคล้ายศาลพระภูมิ มีบึงน้ำอยู่ด้านล่างสุด ตัดด้วยสะพานไม้สำหรับให้คนเดินไปให้อาหารปลา รอบ ๆ มีไม้ดอกไม้ประดับรอบล้อมตลอดทางเดินทุกทาง เสียดายที่เราไม่ได้เดินให้ทั่วและขึ้นไปดูภายในวัด ด้วยความลีลาของเราเอง 55 แต่แค่ได้มองและถ่ายภาพก็รู้สึกผ่อนคลายและสบายใจ





           ถึงแม้ท้องฟ้าจะมืดครึ้มแต่มันก็เป็นวันดี ๆ ของเราอีกวันหนึ่ง ที่ได้ลองมาเปิดประสบการณ์และโลกกว้างขึ้นอีก “ถึงรูปจะไม่สวยสำหรับใคร แต่มันมีค่าสำหรับใครบางคน” ️ 

                หากใครมาเยี่ยมชมก็อย่าถ่ายภาพเป็นที่ระลึกกันไว้ด้วยล่ะ  และนี่คือ story ของการเดินทางครั้งที่ ๑ ของเราเอง

              ปล.ภาพที่เราถ่ายเป็นมุมเล็ก ๆ ของสัตว์ที่น่ารัก และมุมมองของฟ้าหลังฝน 

Monday, June 18, 2018

โครงการอบรมเยาวชน YOUTH BLOGGERS รุ่นที่ ๑๗ โรงเรียนบ้านไร่วิทยา จังหวัดอุทัยธานี



อนุสาร อ.ส.ท. ร่วมกับสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) จัดโครงการอบรมเยาวชน YOUTH BLOGGERS  รุ่นที่ ๑๗ ขึ้น ณ โรงเรียนบ้านไร่วิทยา อำเภอบ้านไร่ จังหวัดอุทัยธานี ในระหว่างวันที่ ๑๒-๑๓ มิถุนายน ๒๕๖๑ ที่ผ่านมา โดยมีนักเรียนในระดับมัธยมศึกษาตอนปลายของโรงเรียนบ้านไร่วิทยาเข้าร่วมโครงการ ฯ  รวมทั้งสิ้น ๕๐ คน


ในพิธีเปิดการอบรม นายอนุกูล กรัณย์เมธากุล ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านไร่วิทยา กล่าวตอ้นรับ  โดยมีนายปัญญา ใช้เฮ็ง นายอำเภอบ้านไร่ จังหวัดอุทัยธานีให้เกียรติเป็นประธานในพิธีเปิด

 ช่วงเช้าของวันแรกเป็นการอบรมภาคทฤษฏี โดยนายภาคภูมิ น้อยวัฒน์ บรรณาธิการฝ่ายภาพ อนุสาร อ.ส.ท. ทำหน้าที่วิทยากร บรรยายเรื่องเทคนิคการเก็บข้อมูล การเขียน และการถ่ายภาพสารคดีท่องเที่ยว ก่อนที่ในช่วงบ่ายจะลงฝึกปฏิบัติภาคสนามเก็บข้อมูล และถ่ายภาพประกอบสำหรับจัดทำสารคดีสั้น ณ  ต้นไม้ยักษ์บ้านสะนำ และวัดถ้ำเขาวง แหล่งท่องเที่ยวสำคัญของอำเภอบ้านไร่ ซึ่งมีจุดสนใจหลากหลายประเภท ทั้งในด้านธรรมชาติอย่างน้ำตกหลากไหล บรรยากาศร่มรื่นด้วยแมกไม้ ถ้ำขนาดใหญ่งดงามด้วยหินงอกหินย้อย เรือนไทยอันงดงามของวัดถ้ำเขาวง รวมไปถึงสถาปัตยกรรมสิ่งก่อสร้างต่าง ๆ 




ในวันที่สองผู้เข้าอบรมฝึกเชิงปฏิบัติการเขียนสารคดีสั้น พร้อมคัดเลือกภาพถ่าย นำเสนอผ่านทางเครือข่ายชุมชนออนไลน์  พร้อมรับฟังการวิจารณ์ผลงานเพื่อนำไปปรับปรุงในโอกาสต่อไป  ผลงานที่ได้รับรางวัลจากการประกวดภายในรุ่นที่ ๑๗ มีดังนี้  รางวัลนำเสนอดีเด่นได้แก่ นางสาววิภารัตน์ พรมพิราม รางวัลเนื้อหาดีเด่น ได้แก่นางสาวเทพอักษร ย้อนเพชรจากสารคดีเรื่อง "Story" รางวัลภาพถ่ายดีเด่น ได้แก่ นายสหรัฐ กองช้าง จากสารคดีเรื่อง "ผู้ดูแลป่าหมาก"  รางวัลเนื้อหาและภาพประกอบดีเด่น ได้แก่ นางสาวกันต์หทัย ดอนเจอดีย์ จากสารคดีเรื่อง "กล้วยทอดป้าวี" โดยมีนายภาคภูมิ น้อยวัฒน์ บรรณาธิการฝ่ายภาพ อนุสาร อ.ส.ท. เป็นผู้มอบรางวัล พร้อมมอบประกาศนียบัตรให้กับผู้เข้ารับการอบรม และกล่าวปิดการอบรม



Thursday, March 15, 2018

YOUTH BLOGGERS รุ่นที่ ๑๖ (YB Special)



อนุสาร อ.ส.ท. ร่วมกับสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) จัดโครงการ YOUTH BLOGGERS  รุ่นที่ ๑๖  ขึ้นในระหว่างวันที่ ๒๗ – ๒๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๑ ที่ผ่านมา ณ ห้องประชุม โครงการศึกษาวิจัยและพัฒนาเกษตรกรรมบนที่สูงของมูลนิธิชัยพัฒนา อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีนายจิระชาติ ซื่อตระกูล ปลัดอำเภอ (เจ้าพนักงานปกครองชำนาญการพิเศษ) หัวหน้ากลุ่มบริหารงานปกครองอำเภอฝางให้เกียรติเป็นประธานในพิธีเปิดการอบรม


ในครั้งนี้จัดถือเป็น  YOUTH BLOGGERS SPECIAL” เนื่องจากเป็นการจัดอบรมการประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวผ่านสื่อโซเชียลออนไลน์ ในฐานะเครือข่ายท่องเที่ยวชุมชน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพด้านการจัดการการท่องเที่ยวให้กับเจ้าหน้าที่และบุคคลากรทางด้านการประชาสัมพันธ์ในพื้นที่อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ มีเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นผู้ทำงานเกี่ยวข้องประชาสัมพันธ์เข้าร่วมโครงการ ฯ  รวมทั้งสิ้น ๕๓ คน


ในวันแรกช่วงเช้าเป็นการอบรมภาคทฤษฏี โดยนายภาคภูมิ น้อยวัฒน์ บรรณาธิการฝ่ายภาพ อนุสาร อ.ส.ท. ทำหน้าที่วิทยากร บรรยายเรื่องเครือข่ายการประชาสัมพันธ์ด้านการท่องเที่ยวออนไลน์ของอนุสาร อ.ส.ท. และการสร้างคอนเทนต์เพื่อเผยแพร่ทางสื่อโซเชี่ยลในมาตรฐานเดียวกันกับของอนุสาร อ.ส.ท.  ประกอบด้วยเทคนิคการเก็บรวบรวมข้อมูล การเรียบเรียงเนื้อหาเป็นสารคดีสั้น และการถ่ายภาพแหล่งท่องเที่ยวให้ดูน่าสนใจเพื่อใช้ประกอบสารคดีท่องเที่ยว



 ในช่วงบ่ายจะลงฝึกปฏิบัติภาคสนามเก็บข้อมูล และถ่ายภาพประกอบสำหรับจัดทำสารคดีสั้น  โดยเปิดโอกาสให้ผู้เข้าอบรมแต่ละคนลงพื้นที่ทำงานจริงในเขตรับผิดชอบของตนเอง เพื่อเก็บข้อมูลและถ่ายภาพแหล่งท่องเที่ยวในท้องถิ่นของตน ทั้งในด้านธรรมชาติ ประวัติศาสตร์โบราณคดี ศิลปวัฒนธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณี  ตลอดจนถึงที่พักและอาหารการกิน นำมาสร้างสรรค์ นำเสนอเป็นสารคดีสั้นประกอบภาพถ่าย เพื่อใช้เป็นคอนเทนท์เผยแพร่ผ่านสื่อออนไลน์



ในวันที่สองผู้เข้าอบรมฝึกเชิงปฏิบัติการเขียนสารคดีสั้น พร้อมคัดเลือกภาพถ่าย จัดทำเป็นสารคดีท่องเที่ยวขนาดสั้น พร้อมนำเสนอถึงกระบวนการในการคิดสร้างสรรค์ผลงาน ซึ่งผู้เข้าอบรมแต่ละคนต่างก็ใช้ความรู้ความสามารถในการสร้างสรรค์ทั้งเนื้อหาและภาพถ่ายกันอย่างเต็มที่ แสดงถึงความพร้อมในการทำหน้าที่เครือข่ายด้านการท่องเที่ยวท้องถิ่น ที่จะนำเอาข้อมูลแหล่งท่องเที่ยวใหม่ ๆ  ในพื้นที่ของตนเอง ออกมาร่วมนำเสนอผ่านทางเครือข่ายชุมชนออนไลน์ของอนุสาร อ.ส.ท. ต่อไป 
  


หลังจากการวิจารณ์ผลงานโดยวิทยากรเพื่อเสนอแนะแนวทางการปรับปรุงผลงานให้สมบูรณ์ในโอกาสต่อไปแล้วก็เป็นพิธีมอบประกาศนียบัตร โดยนายจิระชาติ ซื่อตระกูล ปลัดอำเภอให้เกียรติเป็นผู้มอบประกาศนียบัตรแก่ผู้สำเร็จการอบรมและกล่าวปิดการอบรม




 ขอเชิญน้อง ๆ เยาวชนอายุไม่เกิน ๒๕ ปี ร่วมสนุกส่งภาพถ่ายและบอกเล่าเรื่องราวแหล่งท่องเที่ยวใกล้บ้านเข้าประกวด ชิงรางวัลกล้องคอมแพ็กต์มูลค่า ๓,๐๐๐ บาท พร้อมประกาศนียบัตร และเสื้อยืด YOUTH BLOGGERS เป็นประจำทุกเดือน โดยดูรายละเอียดการส่งผลงานเข้าประกวด และชมภาพถ่ายกิจกรรมและผลงานของเยาวชน YOUTH BLOGGERS ได้ที่ อนุสาร อ.ส.ท. ในคอลัมน์ “เยาวชนตากล้องท่องเที่ยวไทย” เป็นประจำทุกเดือน และทางออนไลน์ที่กลุ่ม www.facebook.com/groups/osothoYB และที่แฟนเพจ www.facebook.com/youthbloggers